เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ระบุ ก่อนที่จะลงเล่นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสองกับ บาร์เซโลน่า เมื่อซีซั่นก่อนนั้น ตนบอกกับลูกทีมว่าพวกเขามีดีพอที่จะทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ พร้อมบอกว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดของตนในนัดชิงดำคือตอนที่ ดิว็อค โอริกี้ ทำประตูที่ 2 ได้
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าตนพูดกับลูกทีมถึงเรื่องแท็กติก และเรื่องที่ว่าพวกเขาสามารถทำให้เรื่องที่ดูยากมันกลายเป็นความจริงได้ ก่อนที่ “หงส์แดง” จะผ่าน บาร์เซโลน่า ในรอบรองชนะเลิศของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อซีซั่นก่อนได้
ในนัดแรกของรอบดังกล่าว ลิเวอร์พูล ออกไปแพ้ที่ คัมป์ นู มาก่อน 0-3 ทำให้หลายคนฟันธงว่าพวกเขาไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้แน่ๆ แต่สุดท้ายทีมของ คล็อปป์ มาชนะ 4-0 ในนัดสองที่ แอนฟิลด์ จนทำให้สกอร์รวม 2 นัดเป็น ลิเวอร์พูล ที่ชนะไป 4-3 ทำให้พวกเขาเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ ก่อนจะได้แชมป์ในบั้นปลายจากการคว้าชัยเหนือ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-0
คล็อปป์ เผยว่า “ตอนที่เราเตรียมความพร้อมสำหรับนัดสองน่ะ ผมพูดแบบตรงไปตรงมาสุดๆ ในตอนที่พูดกับลูก่ทีม หนนี้มันไม่มีการใช้การปลุกใจด้วยการใช้ Rocky อีกแล้ว ส่วนใหญ่แล้วผมพูดเรื่องแท็กติกน่ะนะ แต่ผมก็พูดความจริงกับพวกเขาด้วยเหมือนกัน ผมบอกไปว่า -เราต้องลงเล่นโดยที่ขาดกองหน้าที่เก่งที่สุดในโลกทั้ง 2 คน คนอื่นๆ ทั่วโลกบอกว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ และพูดกันตามตรงนะ มันก็อาจจะเป็นไปไม่ได้จริงๆ ก็ได้ แต่มันเป็นเพราะพวกนายนี่แหละ ไม่ใช่หรือ ? มันเป็นเพราะพวกนายนี่แหละเราถึงมีโอกาสที่จะทำให้มันเป็นไปได้-”
“เราเชื่อมั่นในเรื่องนั้น สิ่งที่สำคัญมันไม่ใช่เรื่องเทคนิคของพวกเขาในฐานะนักเตะ สิ่งที่สำคัญคือพวกเขามีนิสัยยังไงในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง และพวกเขาก้าวข้ามอะไรมาบ้างในชีวิต สิ่งเดียวที่ผมพูดนอกเหนือจากนั้นคือ -ถ้าเราล้มเหลวแล้วล่ะก็ เราก็มาล้มเหลวกันในแบบที่งดงามที่สุดกันดีกว่า-”
“แน่นอน มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับผมที่จะพูดอะไรแบบนั้นออกมา เพราะผมมันก็แค่คนที่ตะโกนโหวกเหวกโวยวายอยู่ที่ข้างสนามเท่านั้น แต่นักเตะที่ทำมันได้สำเร็จจริงๆ น่ะถือว่าเจองานยากกว่าผมเยอะ ถีงกระนั้น มันก็เป็นเพราะเด็กๆ เหล่านั้น และเป็นเพราะคน 54,000 คนที่ แอนฟิลด์ เราถึงสามารถทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้มันเป็นไปได้”
กุนซือชาวเยอรมันเสริมว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดในนัดชิงดำสำหรับตนคือตอนที่ ดิว็อค โอริกี้ ทำประตูตอกย้ำชัยชนะให้ทีมได้ในช่วง 3 นาทีสุดท้ายของเกม โดยหลังจากถูกถามว่าอะไรเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดของเขาในวันนั้น เจ้าตัวก็ตอบว่า “ลูกยิงสุดสวยของ ดิว็อค โอริกี้ มันไม่ใช่เกมที่เราเล่นได้ดีที่สุด และก็ไม่ใช่เกมที่ ท็อตแน่ม เล่นได้ดีที่สุดเหมือนกัน”
“มันเป็นนัดชิงชนะเลิศ ในฐานะทีมนั้นเราต้องเรียนรู้ว่าเราจำเป็นต้องเอาชนะเกมที่เราเล่นได้ในระดับธรรมดาอย่างนี้ให้ได้ เราต้องยอมรับว่าถ้าเราไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งออกมาได้แล้วน่ะ เราก็ต้องทำในแบบอื่นเพื่อที่จะชนะ พอ ดิว็อค ทำประตูได้ ผมก็รู้ทันทีว่ามันเพียงพอที่จะทำให้เราชนะแล้ว นั่นเป็นความทรงจำที่ยอดเยี่ยมที่สุดของผม มันเป็นการตอกฝาโลง และผมก็ชอบมันมากๆ”
อ่านต่อได้ที่ automaxtacoma.com
สมัครเว็บไซต์ บาคาร่า ที่ดีที่สุด
มีครบทั้ง บอล หวย มวย หรือว่า ม้าแข่ง ไก่ชน
**ราคาดีที่สุด **ค่าคอมสูงที่สุด **บริการดีที่สุด **คนเล่นเยอะที่สุด
สมัครวันนี้รับสิทธิ์พิเศษมากมาย UFA369 พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง